ข่าวดี สำหรับเจ้าของโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม เปลี่ยน! เพื่อความคุ้มค่าและยั่งยืน

“Wall Tech” ทุ่มลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงยกแพลนท์จากเยอรมนีผลิตของดี FIWall i380 หรือ PIR: Polyisocyanurate Foam นวัตกรรมฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูงเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย

โอกาสทอง! สำหรับเจ้าของโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ในการเปลี่ยนมาใช้ PIR แท้ๆ ในราคาถูกกว่า ปลอดภัยกว่า!

บริษัท วอลล์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำแห่งวงการผลิต ออกแบบ และติดตั้งฉนวนกันความร้อนครบวงจรของประเทศไทย เป็นผู้ผลิต PIR FIWall i380–PIR แท้ๆ หนึ่งเดียวในประเทศไทยด้วยเครื่องฉีดโฟมอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง จากบริษัท Hennecke GmbH ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพระดับโลก กล่าวคือ PIR FIWall i380 เป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนกันไฟ ไร้ควัน เอาใจผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มด้วยราคาที่ต่ำกว่าฉนวนนำเข้าถึง 40%

ครัวไทย ครัวโลก

บุคลากรคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร

คุณสุทธิ เด่นวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอลล์ เทคโนโลยี จำกัด เริ่มเกริ่นให้เห็นความสำคัญและการเจริญเติบโตอย่างโดดเด่นของแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยว่า ประเทศไทยคือครัวโลก อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจึงเป็นอนาคตของเศรษฐกิจชาติ มียอดส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งด้วยขนาดที่ใหญ่มากของอุตสาหกรรมสาขานี้ ย่อมมีบุคลากรที่เกี่ยวข้องอยู่ในสายงานเป็นจำนวนมาก ทั้งสายการผลิต ห้องเย็น ห้องแช่แข็ง ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก และผู้ประกอบการอาจปล่อยให้บุคลากรของตัวเองอยู่ในความเสี่ยงแบบไม่รู้ตัว

ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) พบว่า ในปี 2558 ประเทศไทยมีจำนวนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 6,184,926 คน ซึ่งเป็นแรงงานฝ่ายผลิต 5,082,462 คน โดยอยู่ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด คือ ประมาณ 957,998 คน ถือเป็นความสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของพนักงาน เพราะเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร

อีกทั้ง เมื่อย้อนดูสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดกับโรงงานอุตสาหกรรม พบว่าอัตราการเกิดอัคคีภัย เมื่อปี 2557 เกิดเหตุ 79 ครั้ง ปี 2558 เกิดเหตุ 84 ครั้ง และปีที่แล้ว 2559 เกิดอัคคีภัยขึ้นถึง 107 ครั้ง เห็นได้ว่าไม่มีทีท่าจะลดลง โดยสาเหตุหลักส่วนใหญ่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อเกิดการประกายไฟแล้วลุกลามไปยังวัสดุติดไฟง่ายที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยจำนวนมาก ยังใช้ฉนวนกันความร้อนแบบเก่า คือ โฟมขาว หรือ Polystyrene (PS) และโฟมเหลือง หรือ Polyurethane (PU) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี สามารถลุกลามบานปลายเนื่องจากติดไฟง่าย จนนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ขณะนี้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในแถบทวีปยุโรปและอเมริกามีการเปลี่ยนมาใช้ PIR กันทั้งหมดมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ข่าวดี Wall Tech ผลิต FIWall i380 PIR แท้ๆ ถูกกว่านำเข้า 40%

เปลี่ยน… เพื่อความคุ้มค่า

คุณสุทธิกล่าวว่า แม้ฉนวน โฟมขาว (PS) และ โฟมเหลือง (PU) จะมีราคาถูกกว่า แต่ไม่คุ้ม เพราะเมื่อเกิดเหตุสูญเสียขึ้นมา ไม่ว่าจากอัคคีภัย หรือการถล่ม นำมาสู่ความสูญเสียมหาศาลที่ประเมินค่าไม่ได้ ทางที่ดี ผู้ประกอบการควรลงทุนก่อสร้างโรงงานหรือห้องเย็นด้วยวัสดุที่คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างยั่งยืนดีกว่า

ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจจะใช้ฉนวน PIR ในการก่อสร้างโรงงาน ทว่าต้องนำเข้า และมีราคาสูงกว่าฉนวนแบบเก่าถึง 2 เท่า จึงทำให้เจ้าของโรงงานต่างลังเลใจเนื่องจากเป็นการลงทุนที่สูงเกินไป

แต่ขณะนี้ บริษัท วอลล์ เทคโนโลยี จำกัดได้ลงทุนนำเข้าเครื่องจักรรุ่นใหม่ล่าสุดและน้ำยาเคมีแบบยกแพลนท์จากประเทศเยอรมันนี เข้ามาผลิตเองในประเทศไทย นับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการสามารถลงทุนสร้างโรงงานด้วย แผ่นฉนวนกันความร้อน PIR แท้ๆ FIWall i380 ในราคาที่จับต้องได้ สามารถสร้างโรงงานด้วยฉนวน PIR แท้ๆ คุณภาพสูง ในราคาที่ถูกกว่าฉนวนนำเข้าถึงกว่า 40%

หากผู้ประกอบการเปลี่ยนหรือเลือกใช้ PIR FIWall i380 นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง โดยคุณสุทธิให้เหตุผลสนับสนุนถึงความคุ้มค่า ดังนี้

• PIR แท้ๆ ที่ทนไฟจริงๆ จะต้องมีค่าดัชนีชี้วัดความเป็น PIR ที่เรียกว่า ค่า Index ซึ่งหากมีค่า Index มากกว่า 350 ก็อยู่ในสภาพที่เรียกว่ากันไฟได้ สำหรับ FIWall i380 เหนือกว่าด้วยค่า Index สูงถึง 370 จึงมั่นใจได้ว่า นอกจากจะได้ฉนวนเกรดพรีเมี่ยมที่ช่วยกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังได้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย
• PIR ที่ดีต้องไม่มีฟองอากาศ เพราะฟองอากาศทำให้ค่าความเป็นฉนวนต่ำลงและในระยะยาว น้ำจะเข้าไปแทนที่ FIWall i380 PIR แท้ๆ by Wall Tech ถูกผลิตอย่างประณีต ตั้งแต่การเตรียมเหล็กเพื่อทำ sandwich panel การฉีดโฟม หรือการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการก่อตัวของแผ่นฉนวน

• FIWall i380 PIR แท้ๆ by Wall Tech มีระบบการล็อคแผ่นผนังแบบ ZIP-Lock ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากระบบ Z-Lock เดิมของ Wall Tech จุดเด่นคือใช้เหล็กยาวถึง 9 ซม. รูปทรง Z ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้อง และยังช่วยป้องกันไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทานต่อแรงปะทะมากที่สุด ซึ่งเป็นระบบล็อคที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่าระบบล็อคทั่วไปแบบเดิมๆ (Clip-Lock) ด้วยเหตุนี้ ผนังที่ติดตั้งขึ้นด้วย FIWall i380 จึงมีทั้งความแข็งแรงและไม่ยอมให้ความเย็นเล็ดลอดออกมาข้างนอกเหมือนระบบล็อคทั่วๆ ไป ส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานหรือประหยัดค่าไฟได้มากกว่าอย่างชัดเจน

“การออกแบบห้องเย็นมีหลักการง่ายๆ ว่า ห้ามมีรูรั่ว หรือช่องใดๆ ให้ความเย็นรั่วออกไปได้ ฉะนั้น แผ่นฉนวนต้องชนฉนวน ต้องชนได้สนิทเป๊ะๆ หากไม่มีความเที่ยงตรงแม่นยำ หัว-ท้าย หรือบน-ล่างไม่ชนกัน มีช่องโหว่ มีรูรั่ว จะเกิดการรั่วไหลของความเย็น เกิดสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ

“ซึ่ง FIWall i380 PIR แท้ๆ โดย Wall Tech เป็นแผ่นฉนวนที่เที่ยงตรงมากทั้งขนาดและรูปร่าง แต่ละแผ่นต่อกันได้สนิทพอดี เพราะเรามีกรรมวิธีผลิตเฉพาะและควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์” คุณสุทธิ กล่าวเพิ่มเติม

คุณสุทธิให้ข้อมูลที่น่าสนใจถึงสิ่งที่ทำให้ แผ่นผนังฉนวนกันความร้อน กันไฟ PIR แท้ๆ FIWall i380 มีค่า Index มากกว่า350 ขึ้นไป ไม่ก่อให้เกิดฟองอากาศ ซึ่งมีเพียง Wall Tech เท่านั้นในประเทศไทยที่ดำเนินการอยู่ นั่นคือ

1. การเตรียมผิวเหล็กให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
2. ใช้การผสมสารเคมีเฉพาะที่เรียกว่า 5 Components แทนระบบ 2 Components เนื่องด้วยแผ่นฉนวนกันความร้อนมีความหนาไม่เท่ากันตามการใช้งานหรือความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้น จึงต้องมีส่วนผสมของแต่ละสารเคมีในแต่ละขนาดที่แตกต่างกันไป
3. เก็บสารเคมีหลัก คือ Polyal และ Isocyanate ไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความสดใหม่ของสารเคมี และคงคุณภาพดีคงที่
4. ในกระบวนการผลิตนั้น มี Metering ที่มีความละเอียดแม่นยำสูงถึง 99.99 % ในการทำหน้าที่ควบคุมอัตราส่วนของ 5 Components ให้มีสัดส่วนที่เที่ยงตรงตลอดเวลาในการฉีด
5. มีอุโมงค์ควบคุมอุณหภูมิที่มีความยาว 30 เมตร ซึ่งอยู่ในการควบคุมอุณหภูมิที่ เหมาะสมตลอดระยะเวลาการอบ ที่สามารถรองรับการผลิต PIR ได้ทุกความหนา

เปลี่ยน… เพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน

อายุการใช้งานนานกว่า PS 2-3 เท่า

นอกจากเป็นวัสดุกันไฟแล้ว FIWall i380 PIR แท้ๆ by Wall Tech ยังมีอีกคุณสมบัติเด่นที่หาจากฉนวนอื่นไม่ได้ คือ ค่าการดูดซับน้ำ หรือ Water Absorption ที่ต่ำกว่าฉนวนแบบอื่นถึง 5 เท่า ซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานนานกว่าฉนวนแบบอื่นถึง 2-3 เท่าเลยทีเดียว

“ห้องเย็นที่ใช้งานประมาณ 5 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีน้ำถูกดูดซึมเข้าไปในแผ่นฉนวน ทำให้ค่าความเป็นฉนวนลดลง ห้องเก็บความเย็นได้ไม่เท่าเดิม ต้องเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น และยิ่งน้ำซึมเข้าไปมากเท่าไร แผ่นฉนวนก็ยิ่งเสื่อมเร็ว นอกจากนี้ แผ่นฉนวนที่อุ้มน้ำไว้น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า เช่น 10 กิโลกรัมต่อตารางเมตรเป็น 100 กิโลกรัมต่อตารางเมตรได้เลยเมื่อน้ำหนักเยอะ ก็เกิดการร่วงถล่มลงมา บางที่ก็มีการทับคนงานเสียชีวิตก็มี”

“แผ่นฉนวนเราไม่ดูดซับน้ำ เพราะออกแบบมาให้แผ่นฉนวนแน่น ไม่มีโพรง ไม่มีฟองอากาศ อายุการใช้งานของฉนวนเราจึงยาวนานกว่าแบบอื่นได้ 2-3 เท่า ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน

คุณสุทธิได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการบางรายที่มีกระบวนการผลิตเป็นแบบ PU แต่นำมาเสนอว่าเป็น PIR ซึ่งถือว่าเป็น PIR ของปลอม ซึ่งผู้ซื้อบางท่านอาจไม่ทราบ เพราะมองด้วยสายตาเพียงอย่างเดียวไม่อาจแยกออก อย่างไรก็ตาม ก็มีวิธีการทดสอบด้วยการส่งตรวจห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บ รวมถึงการ ทดสอบด้วยตนเองโดยการเผา หาก PIR ปลอมนั้น จะติดไฟและลามไปทั้งแผ่น มีควันเยอะ แต่ PIR แท้ๆ จะไม่ติดไฟ มีควันน้อย และเปลี่ยนตัวเองเป็นฉนวนกันไฟไปในตัว

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นการตอบคำถามว่าทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ FIWall i380 PIR แท้ๆ ของ บริษัท วอลล์ เทคโนโลยี จำกัด

ย้ำอีกครั้ง! FIWall i380 เป็นฉนวนกันความร้อน PIR แท้ๆ ด้วยวัสดุที่ถือเป็นนวัตกรรมอย่างพอลิไอโซยานูเรต ที่นอกจากจะกันไฟ ไม่มีควัน ทนทานต่ออุณหภูมิทั้งร้อนและเย็นจัด ตั้งแต่ -60 องศา ถึง 100 องศาเซลเซียสแล้ว ยังมีน้ำหนักเบา ไม่นำความร้อน แถมยังดูดซับน้ำต่ำ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนด้านพลังงาน ลดความเสี่ยงในการสูญเสีย รวมถึงยังมีอายุการใช้งานนานกว่า 2-3 เท่า ซึ่งเรียกได้ว่า คุ้มค่าต่อการลงทุน

เห็นได้ว่า การเลือกลงทุนก่อสร้างด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ย่อมคุ้มค่ากว่า แถมยังยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย