การสร้างห้องเย็นในโรงงานอุตสาหกรรม ต้องคำนึงถึงการกักเก็บรักษาอุณหภูมิภายในเอาไว้ได้อย่างดี จึงต้องเลือกพื้นห้องที่ช่วยรักษาอุณหภูมิความเย็นเอาไว้ได้ แล้วพื้นห้องเย็นมีกี่แบบ เลือกแบบไหนถึงคุ้มค่ามากที่สุด
ประเภทของพื้นห้องเย็น มี 2 รูปแบบ ดังนี้
1. พื้นห้องเย็นแบบคอนกรีต เป็นการใช้คอนกรีตผสมพิเศษ ที่ช่วยป้องกันความเย็นรั่วซึมออกมาได้ เหมาะกับห้องเย็นที่ไม่ต้องการเคลื่อนย้าย และต้องรองรับของที่มีน้ำหนักมาก
2. พื้นห้องเย็นแบบโฟมสำเร็จรูป พื้นห้องแบบโฟมสำเร็จรูป PIR PS PU จะป้องกันความร้อน กักเก็บความเย็นได้ดี พื้นโฟมห้องเย็นสำเร็จรูป มีข้อดีคือสามารถติดตั้งได้รวดเร็ว และถอดประกอบใหม่ได้ ไม่ต้องรื้อโครงสร้างใหม่ทั้งหมดเหมือนพื้นคอนกรีต
เปรียบเทียบวัสดุพื้นห้องเย็นทั้ง 2 ประเภท
- พื้นคอนกรีต ระหว่างพื้นห้องเย็นที่เป็นคอนกรีตนั้นอาจดีในเรื่องความแข็งแรงทนทาน สามารถช่วยกันความชื้นได้แต่ต้องใช้เวลาติดตั้งนาน และมีขั้นตอนเยอะ และต้องเป็นการติดตั้งแบบถาวร เคลื่อนย้ายไม่ได้
- พื้นโฟม PIR สำเร็จรูป จะสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ง่าย ประหยัดเวลากว่าพื้นซีเมนต์ และช่วยกักเก็บความเย็นได้อย่างดี มีค่าความเป็นฉนวนดีเยี่ยม ป้องกันความร้อนและความชื้นได้ น้ำหนักเบามีความทนทาน แต่หากเป็น PIR จะสามารถกันไฟ ไม่ลามไฟดีกว่าโฟม PS และ PIR ช่วยลดการเกิดเหตุไฟไหม้ในโรงงานได้จริง สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยได้ดีกว่าโฟม PS
การเลือกใช้วัสดุพื้นห้องเย็นที่ดีจะส่งผลให้ห้องเย็นกักเก็บรักษาอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างโฟมพื้น PIR FIWall i380 จาก Wall Tech ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องเย็นได้อย่างดี กันความร้อน กันไฟไร้ควัน สามารถติดตั้งได้ทั้ง ห้องเย็น ห้องไลน์การผลิต คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ห้องเย็นสำเร็จรูป ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
Wall Tech ยังรับสร้างโรงงาน คลังสินค้า ห้องเย็น ห้องฟรีส ห้องไลน์ผลิต คลีนรูม ด้วยแผ่นฉนวนกันความร้อน ที่สามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบทั้งผนังกันความร้อน หลังคาฉนวนกันความร้อน ประตูฉนวนกันความร้อน ให้สามารถกักเก็บความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ กันไฟ ไร้ควันได้ทั้งระบบ ถือว่าเป็นฉนวนที่มีความคุ้มค่ากับการลงทุนสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมาก