ความปลอดภัยในการทำงานในห้องเย็น

ห้องเย็น แต่ละแห่งมีอุณหภูมิที่ต่างกัน บางแห่งอุณหภูมิอาจต่ำกว่า -40°C เลยทีเดียว อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อทำงานในห้องเย็น มีดังนี้

  • อุบัติเหตุเนื่องจากคนถูกขังติดอยู่ในห้องเย็น
  • อุบัติเหตุจากสารทำความเย็นรั่ว
  • การบาดเจ็บจากความเย็น
  • ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดอุบัติเหตุ
  • อันตรายจากน้ำแข็งที่เกิดขึ้น
  • เพิ่มโอกาสมากขึ้นที่ทำให้อุปกรณ์เครื่องมือชำรุด
  • การทำงานในห้องเย็นจำเป็นต้องมีการประเมินความเสี่ยง

สารทำความเย็น สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้ดังนี้

1. ฮาโลคาร์บอน (Halocarbons)

อันตราย :

  • มีสถานะคงที่ มีความเป็นพิษต่ำ ติดไฟง่าย
  • เข้าแทนที่ออกซิเจน ทำให้สำลักได้

การป้องกัน :

  • ติดตั้งเครื่องตรวจสอบและเตือนภัย จากการตรวจจับไอของสาร
  • ติดตั้งระบบพัดลมระบายอากาศ ซึ่งทำงานเมื่อปริมาณความเข้มข้น เกินอัตราที่กำหนด LEL (lower explosive limit)

2. แอมโมเนีย (Ammonia)

อันตราย :

  • เป็นพิษ ติดไฟ

การป้องกัน :

  • ติดตั้งเครื่องตรวจสอบและเตือนภัย จากการตรวจจับไอของสาร
  • ติดตั้งระบบพัดลมระบายอากาศ ซึ่งทำงานเมื่อปริมาณความเข้มข้น เกิน 1% (V/V) (P)

3. อีเทน โพรเพน บิวเทน ไอโซบิวเทน อีเทอลีน โพรไพลีน ( Ethane, propane, butane, isobutane, ethylene, propylene)

อันตราย :

  • อัตราการติดไฟสูง มีความเสี่ยงที่จะระเบิด

การป้องกัน :

  • ติดตั้งเครื่องตรวจสอบและเตือนภัย จากการตรวจจับไอของสาร
  • ติดตั้งระบบพัดลมระบายอากาศ ซึ่งทำงานเมื่อปริมาณความเข้มข้น เกิน 25% ของ LEL
  • สำหรับสารทำความเย็น กลุ่ม 1 และ 2 เครื่องตรวจจับไอ ของแยกวงจรไฟฟ้าที่ไม่มีการป้องกันทั้งหมด
  • ในพื้นที่อันตรายให้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ออกแบบสำหรับทำงานในพื้นที่
  • จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยหายใจ ในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายจากสารทำความเย็น

การป้องกันอันตรายสำหรับการทำงานในห้องเย็น

ห้องเย็นต้องสร้างขึ้นถูกต้องตามมาตรฐาน

มาตรการป้องกันไม่ให้มีผู้ปฏิบัติงานหรือบุคคลอื่นๆถูกขังติดอยู่ในห้องเย็น :

  • เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าไปภายในห้องเย็นได้
  • มีป้าย ห้ามผู้ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปข้างใน ติดเตือนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องเย็น
  • มีทางออกฉุกเฉินอย่างน้อย 1 ทาง , มีป้ายเตือนบอกทางในจำนวนที่เพียงพอ และไม่มีวัตถุใดๆกีดขวางทางออกฉุกเฉิน
  • มีสัญญาณเตือนภัยสำหรับให้ผู้ที่ติดในห้องเย็นใช้แจ้งให้ผู้อยู่ข้างนอกทราบว่ามีคนติดอยู่ในห้องเย็น
  • ระบบควรทำงานโดยมีแบตเตอรี่สำรอง มีป้ายบอกและติดตั้งสัญญาณเตือนในตำแหน่งที่เหมาะสมมีไฟฉุกเฉินที่ทำงานด้วยระบบแบตเตอรี่สำรอง มีการบำรุงรักษาและทดสอบอุปกรณ์ระบบความปลอดภัยก่อนที่จะล็อกประตูต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกครั้ง

การรั่วไหลของสารทำความเย็น มีแนวทางในการป้องกันอันตราย ดังนี้

  • ซ่อมบำรุงและควบคุมการทำงานของห้องเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี
  • โรงงานที่มีห้องเย็นขนาดใหญ่จะต้องมีแผนงานในแต่ละช่วงเวลา ในการตรวจสอบห้องเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในส่วนของอุปกรณ์และระบบท่อ ที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายหากชำรุด
  • มีแผนฉุกเฉินในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และสื่อสารให้ทุกคนรับทราบ

การทำงานในสภาพพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ

  • จัดหาชุดป้องกันความเย็นที่เหมาะสม
  • จัดให้มีห้องพักที่มีสภาพอากาศปกติ กับน้ำอุ่น สำหรับพักเบรก ส่วนระยะเวลาในการพักขึ้นอยู่กับ อุณห๓มิของห้องเย็นและลักษณะงาน
  • ผู้ที่ทำงานในห้องเย็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง จะต้องจัดให้มีการตรวจร่างกายผู้ที่จะต้องทำงานในห้องเย็นก่อนเสมอ
  • สะเก็ดน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งที่เกิดขึ้น จะต้องจัดเก็บออกไปทุกวัน
  • อุปกรณ์ที่ใช้งานในห้องเย็นควรจัดให้มีการตรวจสอบให้อยู่ในสภาพที่ไม่อันตราย
  • การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่นำมาใช้ ควรเลือกให้ถูกประเภทที่จะนำมาใช้ในห้องเย็น เช่น พาเลท หรือ ชั้นวางต่างๆ สามารถหาข้อมูลได้จากผู้จำหน่าย
ปรึกษา-สอบถามขอใบเสนอราคา

พูดคุย สอบถามราคากับผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นผนังฉนวน กันความร้อนและห้องเย็น ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

Contact Form
Wall Technology Co., Ltd.
Wall Technology Co., Ltd.
สำนักงานใหญ่
เลขที่ 70 หมู่ 13
ถนนพุทธมณฑล สาย 5
ต.ไร่ขิง อ.สามพราน
จ.นครปฐม 73210
ฝ่ายขาย

โทร : 083-540-7834
สำรอง : 081-668-6086
Line ID : @walltechgroup

โทร : 02 019-8000 Ext. 100
(จ.-ศ. เวลา 8.00 น. – 17.00 น.)
Fax : 02 019-8800
E-mail : csgroup@wtg.co.th

Subscribe
ติดตามเพื่ออัพเดทข่าวสารได้ที่นี่
Line Official: @walltechgroup
บริการหลังการขาย

E-mail. : walltech-hotline@wtg.co.th
มือถือ : 085-918-0718

ร้องเรียนแจ้งปัญหา

โทร : 02-019-8000 Ext. 800
มือถือ : 061-854-6296